.....ดอกไม้ที่เห็นว่ามันดูสวยเมื่อใส่แจกัน
ได้ถามมันไหมว่าโดนบังคับหรือสมัครใจ มีคนที่พรากมันมา อำลากิ่งก้านใบ
แล้วสุดท้ายมาร้องไห้บนแจกัน
“ได้!! ฉันจะดูแลเรื่องค่ารักษาให้พ่อของเธอ
แต่เธอต้องมาแต่งงานกับลูกชายฉัน”
ถ้อยคำจากหญิงวัยกลางคน
ข้อเสนอจากลมปากเปล่าถูกยื่นมาในช่วงเวลาวิกฤตของหนทางที่จะเดินต่อ
มันกลายเป็นทางออกสุดท้ายในนาทีที่ทุกอย่างบนโลกไม่มีอะไรให้พึ่ง
ถึงน้ำเสียงจะอ้อนวอนขนาดไหน ผู้เป็นลูกก็ยอมเพื่อที่จะต่อชีวิตให้พ่อของตัวเอง
ราวกับศักดิ์ศรีถูกขยี้ลงบนพื้นความอัปยศ
ไม่เหลือเลยซึ่งความถูกต้องตามประเพณีกาล ผู้ชายร่างเล็กวัยยี่สิบสี่ปีกำลังกอดเข่าทั้งสองเข้าหาตัวหาความอบอุ่นในช่วงเวลาที่เยือกเย็นที่สุดในชีวิต
น้ำตาไม่มีจะไหลต่อเมื่อความคิดนั้นถูกตัดสิน
ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยเสียงเบา
ก่อนเสียงกระทบกันของรองเท้าหนังกับพื้นไม้จะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ความมืดยังคงอยู่เพราะเปลือกตาที่ปิด สะอื้นตัวโยนสั่นไปทั้งตัว
เสื้อยืดตัวใส่เปียกไปมากเพราะความสงสารตัวเอง
“เตนล์..”
สัมผัสของฝ่ามือแตะเข้าที่ไหล่สั่นนั้น
ตอบสนองด้วยใบหน้าเศร้าที่เปื้อนคราบน้ำตาอยู่ ความกลัวไม่มีเลยในความรู้สึก
การตะคอกใส่อีกคนดูจะเป็นการระบายทุกอย่างของช่วงเวลามืดมนที่สุด
“เอาเลยสิครับพี่แทยง!! จะทำอะไรกับเตนล์ก็ทำเลย
ฮึก เตนล์เป็นของพี่แทยงแล้วนี่ครับ!!”
คราบน้ำตาที่เปื้อนกับนัยน์ตาที่สะท้อนความเกลียดชังออกมา
ใบหน้าที่เรียบนิ่งกับมือหนาที่ยกขึ้นเช็ดน้ำตานั้น
ทุกอย่างดูจะเงียบสงัดลงแต่ก็ต้องเป็นอันพังครืนเพียงเพราะมือหนาที่ยกขึ้นปาดรอยเปื้อนบนใบหน้าที่ถูกทำร้ายจากน้ำตา
อ้อมกอดของคนตรงหน้าถูกมอบให้โดนเร็ว
“ปล่อยเตนล์!! ฮึก.. พี่แทยง ปล่อยผม”
“ไม่เป็นไรนะ.. ”
“ฮึก.. พี่แทยง.. ฮืออ”
แทยงดึงคนตรงหน้ามากอดพร้อมกับกระจับความว่างเปล่าระวังคนสองคนให้หายไป
บรรเทาความเสียใจและความรู้สึกหดหู่ของคนตรงหน้าด้วยอ้อมกอด
เขายังเอ็นดูเตนล์ในฐานะน้องคนหนึ่งที่สนิทกัน แต่ถ้าผู้ให้กำเนิดเขาต้องการให้แต่งงานกับคนตรงหน้า
เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“พ่อเตนล์ดีขึ้นแล้วนะ”
“ขอบคุณครับพี่แทยง..”
คนร่างเล็กยังเข้าใจว่าเขาเป็นคนใจร้ายเหมือนความเข้าใจที่ถูกใช้กับแม่ของเขาสินะ
เขากับร่างเล็กก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลจากไหน เรารู้จักกัน
แต่เพราะฐานะและความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ทำให้เราอยู่ในขอบเขตที่ไม่สามารถเข้าใจกันมากพอเท่านั้นเอง
“กินอะไรไหม”
“ไม่ เตนล์จะนอน”
อาการพ่อของคนร่างเล็กดีขึ้นแล้ว
อย่างน้อยก็ทำให้รอยยิ้มที่สดใสกลับมาอีกรอบ ก่อนมันจะหายไปหลังจากจบประโยคนั้น
ทุกอย่างกลับเป็นแบบเดิม จนแทยงต้องอึดอัดใจมากเหมือนเดิม จากที่เตนล์ไม่ชอบคุยกับเขาก็กลายเป็นว่าไม่มีบทสนทนาเลยแม้สักนิดในระยะของวัน
ร่างสูงกว่านั่งอยู่ปลายเตียงมองคนกำลังห่มผ้าห่มหนาทับกายแล้วหลับตาลงอย่างเร็ว
ทำอย่างกะเขาเป็นสิ่งที่อยากมองไปซะอย่างนั้น
มีสองทางเลือกที่เขาจะทำได้คือหนึ่งคุยกับคนที่กำลังจะหลับตรงหน้ากับสองปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนไป
แต่แทยงก็ไม่ปล่อยให้เรื่องค้างคาอยู่กับตัวเองนานมาก
“พี่แทยง!!”
เขาควรจะหยอกล้ออีกคนด้วยกิริยาที่แสดงความเป็นสามีดีหรือเปล่า
แต่ถ้าทำอย่างนั้นคนตรงหน้าจะยอมคุยกับเขาไหม
ข้อเสนอของแม่เขาดูจะยาวนานและน่าจะจนกว่าพ่อของเตนล์จะหายดี
“ปล่อยผมนะ พี่แทยงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“พี่กอดไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้!!”
“เราอยู่ฐานะอะไรกันนะ”
ก็จริงที่อีกคนเอ่ย แต่ความแปลกใหม่ของสถานภาพก็ยังไม่ชินในความรู้สึก
มือบางถูกรวบเข้ากับมือหนาแทรกแซงช่องว่างของนิ้ว วงแขนที่ถูกวาดเข้ากับเอว เอนตัวพิงเข้ากับแผ่นหลังและทิ้งน้ำหนักผ่านคางลงบนไหล่
ก็ใช่ว่าอีกคนจะชินก็น่าจะลองทำดู
“ปล่อยเตนล์นะพี่แทยง!!”
“ไม่ปล่อย..”
“พี่แทยงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำได้ เพราะเตนล์เป็นเมียพี่แล้ว”
“แต่เตนล์เห็นพี่แทยงเป็นแค่พี่ชาย..คนหนึ่ง”
ความนิ่งถูกแทนที่ความรู้สึกเขินอายและอาการทำตัวไม่ถูกจนหน้าขึ้นสีของอีกคน
ทุกอย่างที่แทยงคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เขาทราบดีว่าคนน้องคิดยังไงแต่เขาก็อยากลองดูในความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นดูว่ามันจะเกิดขึ้นได้ไหม
“เปลี่ยนความคิดซะสิ”
“ไม่ เตนล์ทำไม่ได้หรอกครับ”
“งั้นลองดู”
หลังจากที่ถ้อยคำนั้นถูกเอ่ยออกมา
ทุกอย่างก็ดูจะเปลี่ยนไป ห่วงใยถูกใช้มาแทนที่ในทุกระยะห่างของเวลา เตนล์ดูจะว่างทั้งวันและทำอะไรก็ได้
ต่างกับแทยงที่มีงานต้องทำ การเริ่มมื้ออาหารเล็กๆ ขึ้นไปจนถึงจัดเครื่องแต่งตัวให้
คนร่างสูงพยายามลองให้คนตัวเล็กรู้สึกแบบนั้นดู พร้อมกับเขา อย่างน้อยห้าปีที่ผ่านไปเขาก็น่าจะเจอคำตอบ
“หมอบอกว่าพ่อของเตนล์ใกล้จะหายแล้วนะ”
“งั้นอาทิตย์เตนล์จะไปดูพ่อ”
“ไปยังไงล่ะ”
“....”
“โอเคงั้นพี่พาไป”
เนกไทที่ถูกแกะออกเพราะมือบางของคนตรงหน้า
รอยยิ้มของการตอบรับบทสนทนาการจบประโยค เรามีเรื่องพูดคุยตลอดหลังเลิกงาน
และห้าปีมานี้ คนตรงหน้าเขาก็รู้สึกจะมีความรู้สึกที่แตกต่างจากวันวาน
“เตนล์จำวันนั้นเมื่อห้าปีที่แล้วได้ไหม”
“จำได้ครับ”
“พี่อยากได้คำตอบ”
ใบหน้าที่เรียบนิ่งมองคนตรงหน้าด้วยความต้องการคำตอบ
เตนล์รู้แล้วว่าความรู้สึกข้างนั้นมันเริ่มจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน ตาช้อนมองคนพี่และกำลังจะหาคำตอบ
ริมฝีปากก็ถูกส่งมาประกบกับของเขาก่อนจะเอ่ยอะไรออกมา
มืออีกคนประคองใบหน้าคนถูกจูบ จะขัดขืนก็ดูจะทำไม่ได้เมื่อความรู้สึกห้าม
เตนล์ยอมทำตามและตอบรับทุกอย่างที่อีกคนกระทำ
“เตนล์ไม่ต้องตอบพี่ล่ะ
พี่ได้คำตอบแล้ว”
ก็ยังเป็นเรื่องที่ทำไม่ถูกเมื่อรู้ว่าตัวเองจูบคนตรงหน้าเป็นครั้งแรกและเสียเวลาไปกับการชิมความหวานของริมฝีปากของกันและกัน
สายตาที่มองประสานกัน การตัดสินเล็กน้อยเริ่มก่อขึ้นก่อนจะเอ่ยขอคนตรงหน้าด้วยความต้องการ
“เตนล์.. เป็นของพี่นะ”
“ครับ..อื้อ!..”
ก็ไม่ขัดขืน
ไม่ได้ปกป้องร่างกายจากสัมผัส ในเมื่อใจแล้ว
เราก็ยอมเป็นของกันและกันทั้งร่างกายและหัวใจ
ถึงสัปดาห์จะลุกไม่ขึ้นเพราะกิจกรรมอย่างว่า แต่คนพี่ก็ดูแลอย่างเข้าใจในตลอดที่ไปทำงานหรือกลับจากที่ทำงาน
จากตอนแรกที่เตนล์ต้องถูกนำมาเป็นภรรยาของแทยงอย่างขัดยังไม่ได้
แต่แทยงก็ทำให้มันดูไม่เลวร้ายขึ้นและพยายามปรับทุกอย่างให้เข้าที่
“เตนล์ เอาอะไรซ่อนไว้ข้างหลังน่ะ”
“ไม่มีอะไรครับ”
“เตนล์..”
“พี่แทยง เตนล์บอกว่าไม่มีอะไรไงครับ”
“พี่ไม่เชื่อ..”
“พี่แทยง!!”
ยังมีเรื่องน่าแปลกใจอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้
แต่ก็สามารถทำให้ความรักของเรามีความสุขได้มากขึ้นไปอีก
การแย่งของที่ซ่อนอยู่ข้างหลังภรรยาตัวเองหลังจากกลับมาจากที่ทำงานทำให้แทยงต้องตกใจ
เอาเถอะอย่างน้อยมันก็เป็นคำตอบของการที่คนน้องวิ่งเข้าห้องกลางดึกพร้อมกับอาเจียนและการที่เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน
“ท้องหรอ...”
“อื้อ..”
“กี่เดือน..”
“สอง..”
“ทำไมถึงท้อง..”
“ถามตัวเองดูสิครับพี่แทยง
ว่าตอนนั้นวันละกี่รอบและกี่วัน”
“มา..”
“จะไปไหนครับ พี่แทยง..”
“ฝากครรภ์”
ไม่คิดว่าจะมีวันนี้
การดูแลคุณแม่ท้องเก้าเดือนดูเป็นอะไรที่ยุ่งยากและทะนุถนอมทั้งแม่และลูกแต่ความสุขก็มากมาย
และทำให้เรารักกันมากขึ้นไป ทุกอย่างดูคิดไม่ถึง และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น
การเป็นพ่อคนมันก็ดูไม่ง่ายเลยสำหรับแทยง
“มาร์คมาหาพ่อมา”
“พ่อกลับมาบ้านแล้ว..”
แทยงไม่เคยคิดว่าจะมีคำว่าครอบครัวขึ้นมา
แต่ตอนนี้มันก็เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำยังไงได้ก็มีลูกชายคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่ในบ้านแล้ว
หลังกลับมาจากทำงานทุกวันก็จะเจอหน้าลูกชายพร้อมกับคุณแม่ ทุกอย่างดูมีความสุขและดีมากจนรอยยิ้มบนใบหน้ายังอยู่นานแม้จะเหนื่อยจากงาน
“งื้อ.. พี่แทยง.. เตนล์ง่วงนะครับ”
“เหนื่อยจังเลยเตนล์”
“ก็นอนสิครับ”
“แต่อยากเล่นกับเตนล์ก่อน”
“เล่นอะไรล่ะครับ”
“มาร์คบอกว่าอยากมีน้อง เตนล์ว่าไง”
“....”
“พี่ก็อยากมีลูกสองคนนะ”
“งั้นก็ได้ครับ..อื้อ..พี่แทยง..”
แทยงคิดว่าถึงเราจะเริ่มต้นไม่สวยมากนัก
แต่เราก็สามารถรักกันได้ ถึงในตอนแรกเตนล์จะเกลียดเขา แต่ระยะเวลาของความสัมพันธ์
การที่อยู่กันและพยายามปรับเข้าหากันก็ทำให้เราทั้งสองเข้าใจกันได้
มาร์คก็เลยเป็นผลพลอยได้ที่ตั้งใจจากการที่เราเข้าใจและรักกัน
“พี่ว่าปู่ย่ากับตายายคงได้อุ้มหลานอีกคนแน่ๆ”
“เตนล์ เหนื่อยแล้วนะพี่แทยง อื้อ!”
....วันหนึ่งหากพบตัวเองวังเวงหมดหนทางและวันนั้นดอกไม้ จะกลับมาหาแจกัน
สกรีมผ่าน #แทเตนล์ดอกไม้กับแจกัน
04/09/2559
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น