หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

OS : TAETEN : ดอกไม้กับแจกัน



.....ดอกไม้ที่เห็นว่ามันดูสวยเมื่อใส่แจกัน ได้ถามมันไหมว่าโดนบังคับหรือสมัครใจ มีคนที่พรากมันมา อำลากิ่งก้านใบ แล้วสุดท้ายมาร้องไห้บนแจกัน


            “ได้!! ฉันจะดูแลเรื่องค่ารักษาให้พ่อของเธอ แต่เธอต้องมาแต่งงานกับลูกชายฉัน”

            ถ้อยคำจากหญิงวัยกลางคน ข้อเสนอจากลมปากเปล่าถูกยื่นมาในช่วงเวลาวิกฤตของหนทางที่จะเดินต่อ มันกลายเป็นทางออกสุดท้ายในนาทีที่ทุกอย่างบนโลกไม่มีอะไรให้พึ่ง ถึงน้ำเสียงจะอ้อนวอนขนาดไหน ผู้เป็นลูกก็ยอมเพื่อที่จะต่อชีวิตให้พ่อของตัวเอง

            ราวกับศักดิ์ศรีถูกขยี้ลงบนพื้นความอัปยศ ไม่เหลือเลยซึ่งความถูกต้องตามประเพณีกาล ผู้ชายร่างเล็กวัยยี่สิบสี่ปีกำลังกอดเข่าทั้งสองเข้าหาตัวหาความอบอุ่นในช่วงเวลาที่เยือกเย็นที่สุดในชีวิต น้ำตาไม่มีจะไหลต่อเมื่อความคิดนั้นถูกตัดสิน

ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยเสียงเบา ก่อนเสียงกระทบกันของรองเท้าหนังกับพื้นไม้จะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ความมืดยังคงอยู่เพราะเปลือกตาที่ปิด สะอื้นตัวโยนสั่นไปทั้งตัว เสื้อยืดตัวใส่เปียกไปมากเพราะความสงสารตัวเอง

“เตนล์..”

สัมผัสของฝ่ามือแตะเข้าที่ไหล่สั่นนั้น ตอบสนองด้วยใบหน้าเศร้าที่เปื้อนคราบน้ำตาอยู่ ความกลัวไม่มีเลยในความรู้สึก การตะคอกใส่อีกคนดูจะเป็นการระบายทุกอย่างของช่วงเวลามืดมนที่สุด

“เอาเลยสิครับพี่แทยง!! จะทำอะไรกับเตนล์ก็ทำเลย ฮึก เตนล์เป็นของพี่แทยงแล้วนี่ครับ!!

คราบน้ำตาที่เปื้อนกับนัยน์ตาที่สะท้อนความเกลียดชังออกมา ใบหน้าที่เรียบนิ่งกับมือหนาที่ยกขึ้นเช็ดน้ำตานั้น ทุกอย่างดูจะเงียบสงัดลงแต่ก็ต้องเป็นอันพังครืนเพียงเพราะมือหนาที่ยกขึ้นปาดรอยเปื้อนบนใบหน้าที่ถูกทำร้ายจากน้ำตา อ้อมกอดของคนตรงหน้าถูกมอบให้โดนเร็ว

“ปล่อยเตนล์!! ฮึก.. พี่แทยง ปล่อยผม”
“ไม่เป็นไรนะ.. ”
“ฮึก.. พี่แทยง.. ฮืออ”

แทยงดึงคนตรงหน้ามากอดพร้อมกับกระจับความว่างเปล่าระวังคนสองคนให้หายไป บรรเทาความเสียใจและความรู้สึกหดหู่ของคนตรงหน้าด้วยอ้อมกอด เขายังเอ็นดูเตนล์ในฐานะน้องคนหนึ่งที่สนิทกัน แต่ถ้าผู้ให้กำเนิดเขาต้องการให้แต่งงานกับคนตรงหน้า เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร



“พ่อเตนล์ดีขึ้นแล้วนะ”
“ขอบคุณครับพี่แทยง..”

คนร่างเล็กยังเข้าใจว่าเขาเป็นคนใจร้ายเหมือนความเข้าใจที่ถูกใช้กับแม่ของเขาสินะ เขากับร่างเล็กก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลจากไหน เรารู้จักกัน แต่เพราะฐานะและความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ทำให้เราอยู่ในขอบเขตที่ไม่สามารถเข้าใจกันมากพอเท่านั้นเอง

“กินอะไรไหม”
“ไม่ เตนล์จะนอน”

อาการพ่อของคนร่างเล็กดีขึ้นแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้รอยยิ้มที่สดใสกลับมาอีกรอบ ก่อนมันจะหายไปหลังจากจบประโยคนั้น ทุกอย่างกลับเป็นแบบเดิม จนแทยงต้องอึดอัดใจมากเหมือนเดิม จากที่เตนล์ไม่ชอบคุยกับเขาก็กลายเป็นว่าไม่มีบทสนทนาเลยแม้สักนิดในระยะของวัน

ร่างสูงกว่านั่งอยู่ปลายเตียงมองคนกำลังห่มผ้าห่มหนาทับกายแล้วหลับตาลงอย่างเร็ว ทำอย่างกะเขาเป็นสิ่งที่อยากมองไปซะอย่างนั้น มีสองทางเลือกที่เขาจะทำได้คือหนึ่งคุยกับคนที่กำลังจะหลับตรงหน้ากับสองปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนไป แต่แทยงก็ไม่ปล่อยให้เรื่องค้างคาอยู่กับตัวเองนานมาก

“พี่แทยง!!

เขาควรจะหยอกล้ออีกคนด้วยกิริยาที่แสดงความเป็นสามีดีหรือเปล่า แต่ถ้าทำอย่างนั้นคนตรงหน้าจะยอมคุยกับเขาไหม ข้อเสนอของแม่เขาดูจะยาวนานและน่าจะจนกว่าพ่อของเตนล์จะหายดี

“ปล่อยผมนะ พี่แทยงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“พี่กอดไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้!!
“เราอยู่ฐานะอะไรกันนะ”

ก็จริงที่อีกคนเอ่ย แต่ความแปลกใหม่ของสถานภาพก็ยังไม่ชินในความรู้สึก มือบางถูกรวบเข้ากับมือหนาแทรกแซงช่องว่างของนิ้ว วงแขนที่ถูกวาดเข้ากับเอว เอนตัวพิงเข้ากับแผ่นหลังและทิ้งน้ำหนักผ่านคางลงบนไหล่ ก็ใช่ว่าอีกคนจะชินก็น่าจะลองทำดู

“ปล่อยเตนล์นะพี่แทยง!!
“ไม่ปล่อย..”
“พี่แทยงจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำได้ เพราะเตนล์เป็นเมียพี่แล้ว”
            “แต่เตนล์เห็นพี่แทยงเป็นแค่พี่ชาย..คนหนึ่ง”

            ความนิ่งถูกแทนที่ความรู้สึกเขินอายและอาการทำตัวไม่ถูกจนหน้าขึ้นสีของอีกคน ทุกอย่างที่แทยงคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เขาทราบดีว่าคนน้องคิดยังไงแต่เขาก็อยากลองดูในความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นดูว่ามันจะเกิดขึ้นได้ไหม

            “เปลี่ยนความคิดซะสิ”
            “ไม่ เตนล์ทำไม่ได้หรอกครับ”
            “งั้นลองดู”

            หลังจากที่ถ้อยคำนั้นถูกเอ่ยออกมา ทุกอย่างก็ดูจะเปลี่ยนไป ห่วงใยถูกใช้มาแทนที่ในทุกระยะห่างของเวลา เตนล์ดูจะว่างทั้งวันและทำอะไรก็ได้ ต่างกับแทยงที่มีงานต้องทำ การเริ่มมื้ออาหารเล็กๆ ขึ้นไปจนถึงจัดเครื่องแต่งตัวให้ คนร่างสูงพยายามลองให้คนตัวเล็กรู้สึกแบบนั้นดู พร้อมกับเขา อย่างน้อยห้าปีที่ผ่านไปเขาก็น่าจะเจอคำตอบ

            “หมอบอกว่าพ่อของเตนล์ใกล้จะหายแล้วนะ”
            “งั้นอาทิตย์เตนล์จะไปดูพ่อ”
            “ไปยังไงล่ะ”
            “....”
            “โอเคงั้นพี่พาไป”

            เนกไทที่ถูกแกะออกเพราะมือบางของคนตรงหน้า รอยยิ้มของการตอบรับบทสนทนาการจบประโยค เรามีเรื่องพูดคุยตลอดหลังเลิกงาน และห้าปีมานี้ คนตรงหน้าเขาก็รู้สึกจะมีความรู้สึกที่แตกต่างจากวันวาน

            “เตนล์จำวันนั้นเมื่อห้าปีที่แล้วได้ไหม”
            “จำได้ครับ”
            “พี่อยากได้คำตอบ”
           
            ใบหน้าที่เรียบนิ่งมองคนตรงหน้าด้วยความต้องการคำตอบ เตนล์รู้แล้วว่าความรู้สึกข้างนั้นมันเริ่มจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน ตาช้อนมองคนพี่และกำลังจะหาคำตอบ ริมฝีปากก็ถูกส่งมาประกบกับของเขาก่อนจะเอ่ยอะไรออกมา มืออีกคนประคองใบหน้าคนถูกจูบ จะขัดขืนก็ดูจะทำไม่ได้เมื่อความรู้สึกห้าม เตนล์ยอมทำตามและตอบรับทุกอย่างที่อีกคนกระทำ

            “เตนล์ไม่ต้องตอบพี่ล่ะ พี่ได้คำตอบแล้ว”
           
            ก็ยังเป็นเรื่องที่ทำไม่ถูกเมื่อรู้ว่าตัวเองจูบคนตรงหน้าเป็นครั้งแรกและเสียเวลาไปกับการชิมความหวานของริมฝีปากของกันและกัน สายตาที่มองประสานกัน การตัดสินเล็กน้อยเริ่มก่อขึ้นก่อนจะเอ่ยขอคนตรงหน้าด้วยความต้องการ

            “เตนล์.. เป็นของพี่นะ”
            “ครับ..อื้อ!..”

            ก็ไม่ขัดขืน ไม่ได้ปกป้องร่างกายจากสัมผัส ในเมื่อใจแล้ว เราก็ยอมเป็นของกันและกันทั้งร่างกายและหัวใจ ถึงสัปดาห์จะลุกไม่ขึ้นเพราะกิจกรรมอย่างว่า แต่คนพี่ก็ดูแลอย่างเข้าใจในตลอดที่ไปทำงานหรือกลับจากที่ทำงาน จากตอนแรกที่เตนล์ต้องถูกนำมาเป็นภรรยาของแทยงอย่างขัดยังไม่ได้ แต่แทยงก็ทำให้มันดูไม่เลวร้ายขึ้นและพยายามปรับทุกอย่างให้เข้าที่

            “เตนล์ เอาอะไรซ่อนไว้ข้างหลังน่ะ”
            “ไม่มีอะไรครับ”
            “เตนล์..”
            “พี่แทยง เตนล์บอกว่าไม่มีอะไรไงครับ”
            “พี่ไม่เชื่อ..”
            “พี่แทยง!!

            ยังมีเรื่องน่าแปลกใจอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็สามารถทำให้ความรักของเรามีความสุขได้มากขึ้นไปอีก การแย่งของที่ซ่อนอยู่ข้างหลังภรรยาตัวเองหลังจากกลับมาจากที่ทำงานทำให้แทยงต้องตกใจ เอาเถอะอย่างน้อยมันก็เป็นคำตอบของการที่คนน้องวิ่งเข้าห้องกลางดึกพร้อมกับอาเจียนและการที่เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน

            “ท้องหรอ...”
            “อื้อ..”
            “กี่เดือน..”
            “สอง..”
            “ทำไมถึงท้อง..”
            “ถามตัวเองดูสิครับพี่แทยง ว่าตอนนั้นวันละกี่รอบและกี่วัน”
            “มา..”
            “จะไปไหนครับ พี่แทยง..”
            “ฝากครรภ์”

            ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ การดูแลคุณแม่ท้องเก้าเดือนดูเป็นอะไรที่ยุ่งยากและทะนุถนอมทั้งแม่และลูกแต่ความสุขก็มากมาย และทำให้เรารักกันมากขึ้นไป ทุกอย่างดูคิดไม่ถึง และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น การเป็นพ่อคนมันก็ดูไม่ง่ายเลยสำหรับแทยง

            “มาร์คมาหาพ่อมา”
            “พ่อกลับมาบ้านแล้ว..”
           
            แทยงไม่เคยคิดว่าจะมีคำว่าครอบครัวขึ้นมา แต่ตอนนี้มันก็เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำยังไงได้ก็มีลูกชายคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่ในบ้านแล้ว หลังกลับมาจากทำงานทุกวันก็จะเจอหน้าลูกชายพร้อมกับคุณแม่ ทุกอย่างดูมีความสุขและดีมากจนรอยยิ้มบนใบหน้ายังอยู่นานแม้จะเหนื่อยจากงาน

            “งื้อ.. พี่แทยง.. เตนล์ง่วงนะครับ”
            “เหนื่อยจังเลยเตนล์”
            “ก็นอนสิครับ”
            “แต่อยากเล่นกับเตนล์ก่อน”
            “เล่นอะไรล่ะครับ”
            “มาร์คบอกว่าอยากมีน้อง เตนล์ว่าไง”
            “....”
            “พี่ก็อยากมีลูกสองคนนะ”
            “งั้นก็ได้ครับ..อื้อ..พี่แทยง..”

            แทยงคิดว่าถึงเราจะเริ่มต้นไม่สวยมากนัก แต่เราก็สามารถรักกันได้ ถึงในตอนแรกเตนล์จะเกลียดเขา แต่ระยะเวลาของความสัมพันธ์ การที่อยู่กันและพยายามปรับเข้าหากันก็ทำให้เราทั้งสองเข้าใจกันได้ มาร์คก็เลยเป็นผลพลอยได้ที่ตั้งใจจากการที่เราเข้าใจและรักกัน

            “พี่ว่าปู่ย่ากับตายายคงได้อุ้มหลานอีกคนแน่ๆ”
            “เตนล์ เหนื่อยแล้วนะพี่แทยง อื้อ!

....วันหนึ่งหากพบตัวเองวังเวงหมดหนทางและวันนั้นดอกไม้ จะกลับมาหาแจกัน


            สกรีมผ่าน #แทเตนล์ดอกไม้กับแจกัน
            04/09/2559

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น